วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ห่วงจัง คำที่ผมอยากบอกคุณเมื่อต้องห่างกัน

ถึง หัวใจของผม

     ในวันที่ผมรู้ว่าจำเป็นต้องย้ายที่ทำงานไปต่างประเทศ ไกลกว่า 3000 ไมล์ ไกลเกินกว่าที่ผมจะได้กลับมากอดและเห็นรอยยิ้มของคุณหลังเลิกงาน  ผมเศร้าและคิดไม่ออกเลยว่าผมจะพูดอะไรมากมายตามความรู้สึกทั้งหมดของผมให้คุณฟังได้ยังไงโดยที่น้ำตาไม่ไหลจนกว่าจะพูดจบได้ทั้งหมด 
     ผมนึกขึ้นได้เมื่อคราวเด็กคุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยท่านยังคงมีการเขียนจดหมายจีบกันอยู่เลย ผมเลยคิดว่า "จดหมาย" นี่แหล่ะจะเป็นตัวแทนความรู้สึกของผมได้ทั้งหมด ผมหวังว่าคุณคงไม่โกรธผมนะครับ ที่ไม่ได้บอกคุณตอนอยู่กับคุณ ผู้ชายที่เขาเป็นเพศที่เข้มแข็งหากผมร้องไห้ต่อหน้าคุณ น้ำตาผมอาจจะทำร้ายคุณที่เป็นเหมือนหัวใจของผม
      คุณรู้ไม๊ครับว่าที่นี่มันวังเวง และเงียบงันเหลือเกิน บ้านพักสวยกว่าห้องเราเป็นไหนๆ ที่ทางบริษัทจัดให้ แต่มันไม่ทำให้ผมอดคิดถึงคุณได้เลย หลังเลิกงานที่เราเจอกันคุณมักจะโผเข้ากอดผมเหมือนเมื่อวานไม่ได้เจอกัน แค่ 1 นาที ที่คุณกอดผมโดยไม่ได้พูดอะไรเลยแต่ผมกลับรู้สึกว่าชีวิตผมจะยืนยาวอยู่เพื่อมอบความรักความอบอุ่นและความปลอดภัยให้ผู้หญิงคนนี้ไปอีกนานแสนนาน
        ผมสุขใจทุกครั้งที่นึกถึงหน้าตาใบหน้าและรอยยิ้มดีใจของคุณที่เห็นผมกลับบ้านหลังเลิกงาน  คุณรู้ไม๊ครับว่าผมเองก็มีความสุขอย่างที่สุดเวลาเห็นคุณ  แต่ตอนนี้มันไม่มี ไม่มีแม้วันที่ผมจะได้กลับไปเจอคุณจริงๆ หลับให้สบายนะครับทูลหัวของผม ผมอยากให้คุณมานั่งฟังผมบอกคุณว่า ผมรักคุณ ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน 

               จาก ผมที่ไม่เคยอยากห่างคุณเลย      

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

2aims: เสน่ห์ของจดหมายกระดาษ ที่ไม่เคยเลือนหาย

2aims: เสน่ห์ของจดหมายกระดาษ ที่ไม่เคยเลือนหาย

เสน่ห์ของจดหมายกระดาษ ที่ไม่เคยเลือนหาย

จดหมาย ฉบับที่ 1

To  "คุณความรัก"

            จดหมายฉบับนี้ฉันเองก็ไม่ทราบว่าจะจ่าหน้าซองเป็นบ้านเลขที่เท่าไร ถึงคุณที่ชื่อว่าอะไร ดังนั้นฉันขอเรียกคุณว่า "คุณความรัก" นะคะ

             นานแล้วที่วัยรุ่นอย่างฉันมักไม่ได้ใส่ใจหรือเห็นความสำคัญของคำว่าจดหมาย ที่เป็นกระดาษและมีข้อความบรรยายที่ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป ซึ่งก็ไม่บ่อยนักที่ฉันจะได้ยินคุณพ่อคุณแม่ฉันพูดถึงเมื่อสมัยท่านยังหนุ่มสาว


ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าฉันได้พบคุณ (คุณความรัก) แต่ฉันเชื่อว่าการพบเจอ “ความรัก” เข้าจังๆ กับใครสักคนมันก็คงเป็นเรื่องที่สวยงามไม่น้อยเลย...แต่ ผู้ใหญ่หลายคนมักบอกว่าฉันยังเด็กเกินไป ยังไม่เข้าใจความรักดีพอ มันเร็วเกินไป สิ่งที่เขาพูดมันถูกต้องแล้วหรือ?...

      อ้อ!ฉันเคยเห็นคนที่ผิดพลาดและเจ็บปวดเพราะเรื่องความรักด้วย พวกเขาบางคนก็เป็นวัยรุ่นเช่นเดียวกับฉัน หลายคนร้องไห้ฟูมฟาย หลายคนฆ่าตัวตาย “ความรัก”...คุณพาคนสองคนมาพบมาผูกพันกัน มา “รักกัน” แต่เมื่อคุณทอดทิ้งเขาทั้งสองไป กลับเกิดเรื่องน่าสะเทือนใจแบบนี้ขึ้น คุณช่างใจร้ายเหลือเกิน ถ้าเป็นเช่นนี้ในใจฉันก็เริ่มกลัวคุณเสียแล้วล่ะ!เมื่อคุณจากไปจะทำให้ฉันเจ็บปวดเช่นนั้นหรือ? คุณโหดร้ายมากขนาดนั้นเชียวหรือ? งั้นที่ว่าความรักสวยงามก็คงจะไม่จริงเสียแล้วสิ?...
เมื่อคุณมีทั้งด้านที่แสนงดงามและน่าหวั่นกลัวหรือถ้ามันยังเร็วเกินไป ฉันยังควรจะมี “ความรัก” อยู่ไหม? ถ้าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา...แล้วอีกนานแค่ไหนเวลาที่สมควรจึงจะเดินทางมาถึงฉันสักที?... ”ความรัก”... ได้โปรดตอบฉันที ด้วยความสงสัย ความหวัง และรอคอย

        ฉันเขียนลงท้ายจดหมายเช่นนั้น เพราะยังไม่แน่ใจว่ารักเป็นเช่นใด จนกว่าฉันจะได้รับคำตอบจาก “ความรัก” ฉันไม่รู้ที่อยู่ของความรัก ฉันจึงตัดสินใจปิดปากซองจดหมายทั้งที่ยังไม่ได้จ่าหน้าซอง ฉันฝากมันไปกับสายลม หวังว่าสายลมจะนำจดหมายนี้ให้คุณอ่าน เมื่อคุณอ่านแล้วได้โปรดตอบฉันด้วยนะ“ความรัก”



แต่ในส่วนลึกๆๆ ของจิตใจวัยรุ่นอย่างฉันที่ผู้ใหญ่มักกล่าวหาว่าฉันนั้นไม่คู่ควร ฉันคิดว่าความรักนั้นไม่เคยทอดทิ้งใคร ความรักมักอยู่ที่นั้นเสมอ คงมีแต่เพียง "คนรัก" ต่างหากที่ทอดทิ้งกัน

    สุดท้ายนี้ ฉันเชื่อว่า จะมีคุฯความรักสักคนที่ตอบฉันบ้าง จากจดหมายฉบับนี้  ฉันขอเฝ้ารอคุณค่ะ  คุณความรัก

                                                                                                 Form  "ฉันที่เป็นวัยรุ่น"